วันก่อนช่างเหอะเขียนเรื่อง "ซ่อมกระเบื้องปูพื้น ๑" โดยลงท้ายว่า... ก่อนที่จะปูกระเบื้องแผ่นใหม่ก็จะต้องเทปูนอุดช่องว่างและรอยแตก (ที่เห็นในภาพ) เสียก่อน
วันนี้เวลาประมาณ ๑๑ โมง...ผมตั้งใจนำจักรยานยนต์ออกไปซื้อทราย เพื่อทำงานชิ้นนี้ต่อ แต่พวกหัวปิงปองดันมาตั้งด่านอยู่หน้าโรงงาน UFC (ช่างเก่งจริง ๆ สำหรับการเป่านกหวีด จับปากกา และเขียนใบสั่ง) ผมต้องรอจนเที่ยงกว่า ๆ ถึงได้นำแมงกะไซค์ออกจากบ้าน....
แก้คำผิด maket = market |
ที่ ๆ ผมจะไปซื้อทรายอยู่เลยสี่แยกบ้านหมอสมไปหน่อยนึง อยู่ทางด้านซ้ายมือ หาไม่ยากครับ! เห็นกองหินกองทรายก็เลี้ยวเข้าไปได้เลย...
ผมขี่จักรยานยนต์ไปจอดใกล้ ๆ กองทราย บอกกับคนขายว่า "ขอซื้อทราย ๑ ไต้" คำว่า "ไต้" หมายถึง "กระสอบ" เค้าถามว่าจะเอาไปทำอะไร พอรู้ว่าผมจะนำไปผสมปูนเทพื้น ก็หิ้วกระสอบทรายที่ไม่ใช่ทรายละเอียดมาให้ (ราคาเท่ากันทั้งทรายหยาบและทรายละเอียด คือกระสอบละ ๒๐ บาท)
กระสอบทรายถูกวางไว้ข้างหน้า..ระหว่างลำแข้ง ต้องใช้หัวเข่าหนีบเอาไว้ ผมจ่ายเงิน ๒๐ บาทแล้วปรับสมดุล ก่อนที่จะบิดคันเร่งบังคับให้รถวิ่งมุ่งหน้ากลับบ้าน
ระหว่างทางจะต้องผ่านโรงเรียนนานาชาติที่เคยไปสอนเมื่อหลายปีมาแล้ว...ผมเห็นป้ายชื่อถูกเปลี่ยนจาก "โรงเรียนนานาชาตินวัตภูมิ" ไปเป็น "โรงเรียนนานาชาติอังกฤษแห่งภาคเหนือ" จึงได้หยุดถ่ายภาพไว้ ๑ บาน คิดในใจว่าเดือนสิงหาคมนี้ Cranberry จะเปิดอีกแห่งหนึ่ง....คงสนุกกันใหญ่!!
เดินทางต่อไปได้อีกไม่ไกล...พระพิรุณก็เทลงมา!! ผมไม่ยอมหยุด พาเ่จ้าเพื่อนยากมุ่งหน้าฝ่าสายฝนจนถึงบ้าน!!
คุณลุงซึ่งกำลังเทปูนอยู่หน้าบ้านคุณวิสูตรเห็นผมนำกระสอบวางกับพื้นก็ถามว่าอะไร ผมตอบว่าเป็นทรายที่จะเอามาผสมปูนเทอุดรอยแตกก่อนปูกระเบื้อง แกชี้ไปที่กองทรายแล้วบอกว่า "เอาที่นี่ก็ได้... ใช้แค่นิดเดียวเอง" แล้วถามต่อว่า "ปู๋นมีแล้วกา?" ผมตอบว่ายังไม่มี กำลังจะออกไปซื้อ นายช่างผู้ใจดีก็บอกว่า "เอาตี้นี่ไปใจ้ก่อได้"
รู้ว่าผมเกรงใจ...คุณลุงบอกว่าไม่เป็นไรหรอก บ้านใกล้เรือนเคียง เดี๋ยวจะบอกเจ้าของเค้าให้ (หมายเหตุ - ทั้งหมดเป็นการสนทนาด้วยคำเมือง) จากนั้นก็ตักปูนประมาณเกือบครึ่งถัง นำมาวางให้ไว้ที่หน้าบ้าน
ผมหาเศษไม้ยาว ๆ มาวางกั้น แล้วตวงทรายใส่ลงในถังปูน (ไม่ผสมบนพื้นให้เลอะเปล่า ๆ) ในอัตราส่วน ๒ ต่อ ๓ จากนั้นก็เทน้ำลงไป แล้วใช้เกรียงกวนให้เข้ากัน หิ้วถังขึ้น...ผมบิดข้อมือไปมาให้ทรายกับปูนผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ก่อนที่จะนำไปวางไว้หน้าบ้าน แล้วใช้เกรียงตักปูนใส่ลงในร่องและช่องว่างที่เห็น...
ผมใช้ปลายเกรียงกระซวก ๆ ให้ปูนเข้าอุดจนเต็ม แล้วแต่งหน้าให้เรียบ แต่ก็ไม่ให้มีระดับเสมอกับพื้นเดิมซึ่งยังจะต้องสกัดออกอีกหน่อย...
เรียบร้อยแล้ว....ปูนหมดพอดี! ผมนำถังไปล้างก่อนส่งคืน!
เดินไปหานายช่างที่กำลังผสมปูน วางถังลง...ผมยกมือไหว้พร้อมกับกล่าวขอบคุณ ไม่คาดคิดมาก่อน...ช่างปูนผมขาวรีบวางมือ รับไหว้ แล้วพูดว่า "บ่อต้องไหว้ก่อได้"
อันความซาบซึ้งมิได้เกิดจากปูนแค่ครึ่งถัง แต่เป็นเพราะน้ำใจของลุงสล่าผู้ยึดมั่นอยู่ในความเรียบง่ายและชีวิตที่พอเพียง มันมีมากจนประเมินค่ามิได้!!
No comments:
Post a Comment