Thursday, April 18, 2013

ปี๊บเก่าอย่าทิ้ง!


ในบล็อกช่างเหอะ ผมเคยเขียนเรื่อง "วิธีตากกล้วย"  และ "วิธีเตรียมเสบียงก่อนออกเดินทาง"   ก็ต้องยอมรับว่า "กล้วยตาก"  ช่วยให้ผมเดินทางท่องโลกได้อย่างราบรื่นมาแล้วหลายครั้ง... 

คนสูงวัยที่ต้องกินยาเป็นประจำ บางครั้งไม่มีอะไร ก็ได้เจ้ากล้วยตากนี่แหละ กินกับขนมปังโฮลวีทและแลคตาซอยเป็นอาหารเช้า ทำให้สามารถกินยาหลังอาหารได้ บางครั้งอยู่บนรถโดยสารก็อาศัยกล้วยตากช่วยบรรเทาความหิวไปได้....


ลงทุนซื้อกล้วยน้ำว้ามา ๔๐ บาท สามารถทำกล้วยตากได้อย่างเหลือเฟือ สำหรับผมมันเป็นเสบียงที่คุ้มค่าที่สุดก็ว่าได้!

ผมไปหลวงพระบางก็เห็นชาวบ้านนำกล้วยมาวางตากไว้ข้างถนน อย่างที่เห็นในภาพ...


ตอนเดินเข้าไปเที่ยวในวัดหมื่นนาฯ  ผมก็เห็นวิธีตากกล้วยของคนลาว  เค้าใส่ถาดวางกับพื้นดินเลยเชียว


ข้าวเหนียวเหลือกินก็นำมาตาก...


คิด ๆ ดูแล้ว การตากกล้วยของผมน่าจะดีกว่าของลาวนิดนึง ตรงที่ว่ามันอยู่สูงและมีตาข่ายกันแมลงวัน...


ทีนี้มาพูดถึง "ปี๊บ" กันหน่อย  นอกจากจะใช้คลุมหัว  (สำหรับผู้นำบางคน) แล้ว ก็ยังสามารถนำมาดัดแปลงทำตู้เป็น "ตู้อบพลังแสงอาทิตย์" ได้ด้วย  (ตามคำแนะนำของคุณเมธี)

ผมเก็บปี๊บเก่าเอาไว้เป็นปี รอจนกระทั่งมีสีน้ำมันสีดำที่เหลือจากงานช่าง...จึงได้ลงมือทำ  ผมใช้ที่เปิดกระป๋องตัดด้านที่เป็นฝาออก แล้วทารอบนอกด้วยสีดำ


แต่งขอบปี๋บโดยรอบให้ดี อย่าให้มีคม แล้วล้างให้สะอาด.ก็ได้ตู้อบแล้ว!.

ผมทดลองใช้ทำพริกแห้งก่อนเลย....


สีดำจะดูดความร้อนเข้าไปภายในปี๊บ ทำให้พริกขี้หนูสดที่ใช้ปี๊บครอบไว้กลายเป็นพริกแห้งได้ภายในเวลาไม่กี่วัน  (ขึ้นอยู่กับแดดจัดหรือไม่จัดด้วย)  ความจริงพริกแค่เนี้ย ถ้าจะตากกับแสงแดดโดยตรงก็ได้ แต่การใช้ปี๊บทำให้กันผุ่น (บ้านผมฝุ่นเยอะ)   และที่ผมชอบมากที่สุดคือ เราไม่ต้องคอยกังวลว่าจะลืมเก็บแล้วปล่อยให้โดนฝน  หุหุ ผมทิ้งมันไว้อย่างนั้นเลย  แกล้งทำเป็นลืม...พอไปเปิดดูอีกทีพริกสดกลายเป็นพริกแห้งไปซะแล้ว!

เพื่อน ๆ มีปี๊บเก่าอย่าทิ้งเด้อ  ถ้าไม่เอาไว้ใช้คลุมหัว ก็เอามาทำตู้อบแสงอาทิตย์ได้...อิอิ! 

No comments: