คนไทยผู้ประสงค์จะเดินทางไปพม่าจำเป็นจะต้องมีวีซ่าซึ่งออกให้โดยสถานทูตพม่าซึ่งอยู่ตรงมุมถนนสาธรเหนือและถนนปั้น
เมื่อ ๒๙ ปีที่แล้ว เดินทางไปเยือนพม่าเป็นครั้งแรก...วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๒๖ ผมได้ไปขอวีซ่าที่สถานทูตพม่า...
การขอวีซ่าครั้งนั้นก็ไม่ยาก ผมจำได้ว่าช่วงนั้นรัฐบาลสังคมนิยมของพม่าเค้าอนุญาตให้นักท่องเที่ยวอยู่ได้แค่เพียง ๑ สัปดาห์ การยื่นขอวีซ่าจะต้องมีตั๋วเครื่องบินไป-กลับแนบไปด้วย แต่ปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าประเทศพม่าได้นานถึง ๒๘ วัน
เมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายนที่ผ่านมา ผมได้ไปขอวีซ่าที่สถานทูตพม่ามาแล้วครับ ไม่ได้ยากเหมือนอย่างที่หลายคนเป็นกังวลเลย ก่อนอื่นเราต้องเตรียมหลักฐานประกอบการขอวีซ่า(สำหรับนักท่องเที่ยว)ให้พร้อม ดังต่อไปนี้:-
- ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าหนังสือเดินทางของเรายังมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ถ้าโอเคก็นำไปถ่ายเอกสารหน้าที่มีรูปและรายละเอียดไว้ ๒ ฉบับ (ฉบับหนึ่งไว้ใช้ประกอบการขอวีซ่า ส่วนอีกฉบับเอาเก็บไว้เป็นหลักฐานหากหนังสือเดินทางหาย) สำเนาบัตรประชาชนหรือทะเบียนบ้านไม่ต้องใช้แล้วนะครับ
- ในการยื่นขอวีซ่าต้องใช้รูปถ่ายขนาด ๒ นิ้ว จำนวน ๒ รูป เพื่อน ๆ จะไปถ่ายที่ร้านหรือจะถ่ายทำเองก็ได้ แต่ต้องให้พื้นหลังเป็นสีขาว (รูปภาพของเราจะไปปรากฏในวีซ่า ถ้าพื้นหลังเป็นสีอื่น เค้าจะไม่รับ)
- ดาวน์โหลดแบบฟอร์มสำหรับกรอกขอวีซ่าจาก ที่นี่ แล้วสั่งพิมพ์ลงบนกระดาษ A4 (ใช้แบบฟอร์มใบนี้ใบเดียวนะ)
- พิมพ์ Travel Itinerary ที่ได้จาก Air Asia ลงกระดาษ A4 เตรียมไว้ ๒ ใบ ใบหนึ่งเอาแนบไปกับเอกสารยื่นขอวีซ่า ส่วนอีกใบเก็บไว้ใช้ check in ที่สนามบิน
- เตรียมเงินไว้จ่ายค่าธรรมเนียม ๘๑๐ บาท
เวลาทำการคือ ๙.๐๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. เท่านั้น
Visa Section อยู่ทางด้านถนนปั้น มีประตูเข้าอย่างที่เห็น เลยเที่ยงไปแล้ว เค้าปิดสนิท! เพื่อน ๆ ไม่ต้องไปให้เสียเที่ยว
ถ้าไปถึงที่นั่นก่อน ๙ โมงเช้าจะเห็นว่ามีคนเข้าคิวรอกันเป็นแถว ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะใช้เวลานาน ที่มีคนมากก็เพราะต่างก็อยากไปทำเรื่องเร็ว ๆ ที่จริงแล้วขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าก็หาได้ยุ่งยากหรือใช้เวลามากมายนัก ยังไง ๆ ก็ทำทันครับ...
ผมเห็นบางคนแบกเป้ไปนั่งรอตั้งแต่เช้า พอได้เวลา ๙ นาฬิกา ประตูรั้วเหล็กหนาทึบก็เปิดให้ผู้คนซึ่งมากด้วยความอดทนค่อย ๆ เดินเรียงแถวกันเข้าไป....
พอเดินผ่านประตูกระจกนั่นเข้าไป ก็จะถึงห้องยื่นขอวีซ่า ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น...เพียงถือเอกสารที่เตรียมไว้ในมือ แล้วยืนต่อคิวอย่างใจเย็น
เค้าจะมีช่องอยู่ ๔ ช่องครับ ทางด้านซ้ายสุด(สำหรับวีซ่านักท่องเที่ยว) เป็นช่องที่เราจะต้องนำหนังสือเดินทางและเอกสารทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่(พูดภาษาอังกฤษ)ตรวจสอบก่อน หากเรียบร้อยดีเค้าก็จะคืนให้พร้อมกับบัตรคิว...
สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยจะรวดเร็วมาก เพราะเค้าจะแยกให้ไปยื่นเอกสารและชำระเงินที่ช่อง Thai Passport (ที่เราเห็นไปกันเยอะ ๆ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฝรั่งมังค่าหรือชาวต่างชาติ) คนไทยมีไม่มาก ขนาดผมไปถึงสาย...ต้องอยู่ท้ายแถว แต่พอตรวจเอกสารแล้ว กลับได้คิวที่จะไปยื่นในอันดับที่สาม พูดได้ว่ายังไม่ทันให้ได้พักหายใจ เสียงประกาศเรียกหมายเลข 303 เป็นภาษาไทย (เหมือนในธนาคาร) ก็ดังออกลำโพงซะแล้ว!
ผมถือเอกสารเข้าไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคนไทย เค้าดูใน Travel Itinerary แล้วเห็นว่าผมไม่สามารถรับหนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าคืนได้ภายในสามวันทำการตามปกติได้ (เพราะจะไปขึ้นเครื่องไม่ทัน) จึงถามว่าจะมารับในตอนเย็นวันนั้นเลย หรือว่าอีกวันหนึ่ง ถ้าแบบด่วนสุด ๆ คือวันเดียวกันก็จะต้องจ่าย ๑,๒๖๐ บาท แต่ถ้าเป็นวันถัดไปก็ถูกลงหน่อยคือ ๑,๐๓๕ บาท ผมเลือกที่จะจ่าย ๑,๐๓๕ บาทเพื่อจะได้ประหยัดตังค์ไว้ ๒๒๕ บาท
ไม่มีอะไรยุ่งยาก...จ่ายเงินเสร็จ ผมก็ได้รับใบเสร็จเพื่อนำไปขอรับหนังสือเดินทางได้ในวันต่อมา...
ใช้เวลาไม่นาน...ยังไม่ถึง ๑๐ โมง ทุกอย่างก็เรียบร้อย!!
เวลารับหนังสือเดินทางคืนคือ ๑๕.๓๐ น. - ๑๖.๓๐ น. มีเวลาแค่ชั่วโมงเดียวเอง เพื่อน ๆ อย่ามัวโอ้เอ้ไปอยู่ที่อื่น ต้องไปรอรับให้ตรงเวลานะ...
ตอนไปรับหนังสือเดินทางคืน ก็มีคนเข้าคิวยาวอย่างที่เห็น!
พอได้เข้าไปข้างใน ก็แบ่งออกเป็น ๓ แถว ด้านซ้ายเป็นวีซ่านักท่องเที่ยวซึ่งรับตามปกติ แถวกลางเป็นแบบ express (ผมต้องเข้าช่องนี้) ส่วนแถวขวาสุดน่าจะเป็นวีซ่านักธุรกิจ (ถ้าเข้าใจไม่ผิด)
ขอวีซ่าไปพม่า...ง่ายมากครับ!
5 comments:
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ขอให้รวย
ขอรบกวนอีกอย่างน่ะค่ะ คือเราจำเป็นต้องยื่นสถานะทางการเงินของเราด้วยหรือเปล่าค่ะ
ไม่ต้องยื่นสถานะทางการเิงินเลยครับ ง่ายมาก
แล้วเราต้องตอบคำถามอะไรหรือเปล่าคะ ประมาณว่าไปทำไม ไปกี่วัน ใครจ่ายตังให้
ดีครับ เข้าใจง่ายดีหุหุ http://www.spvisa-translations.com/รับทำวีซ่าพม่า
Post a Comment