มีผู้นำกีต้าร์เบสตัวหนึ่งมาให้ช่างเหอะช่วยเปลี่ยนลูกบิด สภาพของเบสเก่ามาก ๆ ครับ! สายขึ้นสนิม พื้นผิวของลำตัวก็ดูแทบจะไม่ได้ ส่วนลูกบิดนั้น...แม้มีครบทั้ง ๔ ตัว แต่ไม่มี knob ที่จะใช้ปรับความตึงของสาย...
แรกสุด...ช่างเหอะต้องถอดลูกบิดตัวเก่าออกให้หมดก่อน ปัญหาคือหัวสกรู (ที่เห็นในภาพ) อยู่ในสภาพเยินและขึ้นสนิมแทบทุกตัว ไม่สามารถใช้ไขควงคลายมันออกมาได้ ผมต้องออกไปซื้อไขควงใหม่ที่มีขนาดพอเหมาะจากร้านเล่าจิ้นกวงมาใช้...แต่ก็ยังใช้ไขไม่ได้!
ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ช่างเหอะต้องใช้คีมปากจิ้งจกจับหัวสกรู แล้วค่อย ๆ หมุนออกทีละตัว ๆ
ในที่สุดผมก็ขันสกรูตัวเล็กเหล่านั้นออกได้หมด จากนั้นก็นำลูกบิดชุดใหม่ออกจากแพ็ค...แล้วลองใส่ดู ปรากฏว่ารูลูกบิดตัวเก่ามีขนาดเล็กกว่า จำเป็นต้องคว้านให้รูเหล่านั้นใหญ่ขึ้น ช่างเหอะไม่มีดอกสว่านที่ใหญ่กว่ารูที่เห็นนั่น! เครื่องมือสำหรับคว้านรูอย่างที่เค้าใช้ขยายรูลูกบิดไวโอลินก็ไม่มี พูดง่ายได้ว่า...ไม่มีอะไรทั้งนั้น! แล้วจะทำอย่างไรดี?
ผมต้องใช้วิธีของช่างเหอะอีกแล้ว! โดยใช้กระดาษทรายน้ำ (หยาบ) ม้วนให้เป็นแท่งยาว (อย่างที่เห็นในภาพ) สอดลงไปในรู...แล้วค่อย ๆ หมุน ขัดขึ้น ขัดลง อย่างใจเย็น!
ในที่สุด...ผมก็ได้รูซึ่งมีขนาดพอดีกับลูกบิดตัวใหม่ เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่ารูเก่ากับรูใหม่มีขนาดต่างกันไม่น้อย แล้วลองคิดดูซิครับว่าผมจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน? ถ้ายังงั้น...ผมต้องคว้านรูอีก ๓ รู มันจะต้องกินเวลาอีกแค่ไหนกันเนี่ย? นิ้วและมือของผมคงรับไม่ไหว! ครั้นจะไปซื้อเครื่องมือมารึ ก็คงไม่ไหวอีกเช่นกัน!
แว๊บเข้ามาในสมอง...ผมได้วิธีที่จะทำให้สามารถคว้านรูได้เร็วขึ้น!
ผมใช้สว่านไฟฟ้า...ใส่ดอกสว่านขนาดใหญ่เท่าที่มีอยู่ แล้วนำกระดาษทรายพันโดยรอบ สอดใส่เข้าไปในรู (ตามที่เห็นในภาพ) จากนั้นก็กดสวิช! ซีดๆๆๆๆๆๆๆๆ...เสียงกระดาษทรายขัดเนื้อไม้ดังเร้าใจช่างเหอะ! ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ได้รูซึ่งมีขนาดตามต้องการ!
เรียบร้อย! ผมได้รูซึ่งมีขนาดพอดีสำหรับลูกบิดชุดใหม่...
ปัญหาที่ตามมาคือเบสตัวนี้มีลูกบิดซึ่งเรียงกันอยู่ด้านบนด้านเดียว แต่ลูกบิดที่จะมาเปลี่ยนใหม่เป็นแบบสำหรับคอที่มีลูกบิดด้านบนและด้านล่างอย่างละ ๒ ตัว ยากครับ...ไม่สามารถทำให้ลูกบิดชุดใหม่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ มีอยู่ตัวหนึ่งซึ่งต้องต้องหมุนกลับทาง นอกจากนั้นก็ยังไม่สามารถเรียงให้อยู่ในแนวเดียวและมีระยะห่างเท่า ๆ กันได้...
บทเรียนก็คือ...การเปลี่ยนไปใช้อะไหล่ชุดใหม่ ต้องคำนึงถึงการเข้ากันได้ให้ดีด้วย มิฉะนั้นก็จะเจอกับปัญหาเช่นที่ว่านี้!
นอกจากเปลี่ยนลูกบิด ผมยังต้องเปลี่ยนแจ็คตัวใหม่ให้ด้วย แจ็คตัวเก่าเป็นอย่างที่เห็นในภาพ มันจมลงไปในเนื้อไม้ ติดแน่น น้อตตัวเมียที่ขันอยู่ไม่รู้อยู่ไหนแล้ว! ต้องใช้ความรุนแรงลูกเดียว คือใช้คีมบิดจนตัวแจ็คหลุดออกเป็นชิ้น ๆ ถึงได้เอามันออกมาได้!
ช่างเหอะใส่แจ็คตัวใหม่เข้าไป แล้วบัดกรีสายให้ใหม่ เดินสายดินเพิ่มด้วย! ผมไม่รู้ว่าต่อถูกหรือเปล่า ได้แค่อาศัยความรู้ช่างวิทยุที่ได้เรียนเมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อน ไม่ได้ลองเพราะไม่มีสายแจ็ค!
งานนี้ผมผิดมาก ๆ ที่ทำนอกเหนือคำสั่ง กล่าวคือ พอเห็นว่าสภาพของตัวเบสมันแย่จริง ๆ ก่อนที่จะประกอบลูกบิด และอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าไป ผมจึงคิดว่าจะทำสีให้ดูดีขึ้นหน่อย จึงได้อุดรอยต่าง ๆ ด้วยผงโป้ว แล้วลงวานิชดำด้วยแปรงขนแกะเท่าที่หาได้เป็นการรองพื้นไว้ก่อน ตั้งใจว่าจะขัดด้วยกระดาษทรายแล้วลงสีและแล็คเกอร์ด้านอีกที
ก่อนเที่ยงผมลงวานิชแล้วแขวนไว้ พอบ่าย ๓ ก็ได้รับแจ้งว่าจะมาเอาเบสตอน ๖ โมงครึ่ง ผมจำเป็นต้องนำลงมาประกอบลูกบิด ใส่สาย และอุปกรณ์อื่น ๆ เข้าที่ เนื่องจากวานิชยังไม่แห้ง พอจับก็เป็นรอยฝ้า ไม่รู้จะทำอย่างไรจริง ๆ ผมจำเป็นต้องบัดกรี ประกอบลูกบิด ที่ยึดสาย ใส่สาย ในขณะที่ตัวเบสยังเหนียวเหนอะอยู่เลย ผลก็คือ...รอยมือเต็มไปหมด ช่างเหอะแก้ไขด้วยวิธีนำผ้าชุบน้ำมัน "Old English" ซึ่งคุณเมธีให้มา นำไปขัดตัวเบสให้หม่นไปทั้งตัว ส่วนสภาพไม่เรียบของพื้นผิวก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
ผมไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูปไว้ เพราะยังไม่ทันได้พักหายใจ เค้าก็มารับเบสไปทันที...
ผมอยากจะเขกหัวตัวเองหลาย ๆ โป๊กก็คือ ดันไปทำในสิ่งที่เค้าไม่ได้ให้ทำ เข็ดไปจนตาย!
2 comments:
งั้นก็ไม่สมกับฉายาช่างเหอะสิครับลุงน้ำชา
แสตมป์พม่าที่มากับไปรษณีย์บัตรสวยดีครับ
ขอบคุณคุณบิมมาก ๆ
เข้าไปอ่านบล็อกของคุุณบิมเป็นประจำครับ
Post a Comment