Thursday, July 05, 2012

Madee Hostel

Hostel เป็นที่พักราคาประหยัดสำหรับนักเดินทางแบกเป้โดยทั่วไป ผมรู้จัก hostel มานานแล้ว เคยพัก hostel ครั้งแรกที่เมือง Athens ประเทศกรีซ แต่ที่ใช้บริการมากที่สุดก็คือ YHA ในออสเตรเลีย ตอนปั่นจักรยานไปสิงคโปร์...ผมก็พัก hostel แห่งหนึ่งบนเกาะปีนัง (George Town) ที่นั่นผมได้พบกับชาวออสซี่คนหนึ่ง เค้าบอกว่าผมเป็น "Unusual Thai"

ผมรัก hostelling เป็นชีวิตจิตใจ การพักในหอพักที่มี dormitory bed ให้ได้เอนกายหลับนอน ไม่ว่าจะเป็นเตียงชั้นเดียวหรือสองชั้นในห้องรวม...ผมไม่เคยรังเกียจ กลับรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย เพราะเชื่อว่า hosteller ย่อมเข้าใจใน hosteller ด้วยกัน แม้จะเป็นห้องรวมที่ชายหญิงสามารถพักร่วมกันได้ก็มิได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด...

เดินทางลงกรุงเทพฯ เพื่อขอวีซ่าไปพม่าและรอขึ้นเครื่อง ผมจำเป็นต้องพักอยู่ในกรุงเทพฯ สามคืนด้วยกัน ผมตัดสินใจที่จะพักที่ Madee Hostel ด้วยเหตุผลว่าถูกดี นอกจากนั้นยังอยู่แถวใกล้ ๆ กับบ้านของอาจารย์ประทีป นุตาคม ผู้ซึ่งผมปรารถนาจะไปกราบเท้าท่านสักครั้ง  

วันที่ ๑๘ มิถุนายน หลังจากพาผมไปสถานทูตพม่า...คุณเมธีก็ขับรถพาผมไปลงที่มาบุญครอง เพื่อให้ขึ้นรถเมล์ไป "สุขุมวิท ๕๐" ถนนซึ่งผมรู้แต่เพียงว่าจะสามารถพาผมไปยัง hostel ที่ชื่อว่า "มาดี" ได้ เป็นบ้านนอกหลงกรุง...ผมต้องใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมงกว่าจะไปยืนอยู่ตรงคิวรถมอเตอร์ไซค์ บริเวณหัวมุมถนนสุขุมวิท ๕๐ ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช

  
พอคนแบกเป้ถามถึงซอยเริ่มเจริญ หนุ่มมอเตอร์ไซค์รู้จุดหมายที่จะให้ไปส่งทันที เค้าพูดว่า "มาดี...๑๕ บาท" ผมขึ้นนั่งซ้อนท้ายทันที!

 
 จากถนนใหญ่เข้าซอยไปอีกลึกพอสมควร (ตามเส้นสีเหลือง) 


 ในที่สุดผมก็ถึง hostel ที่ตั้งใจจะไปพัก...


จ่ายเงินค่ารถ ๑๕ บาทแล้วผมก็เดินไปที่ประตู ยังเข้าไม่ได้เพราะกุญแจล็อคเป็นระบบ keycard แม่บ้านต้องเดินมาเปิดให้ เธอแสดงอาการแปลกใจเมื่อรู้ว่าผมเป็นคนไทย...


ผมถามว่ามีเตียงว่างไหม?...ราคาเท่าไหร่? (ถามแบบ hosteller)  เธอบอกว่ามี..ราคาคืนละ ๑๙๙ บาท ผมบอกว่าเป็นคนไทย ตั้งใจมาที่นี่โดยตรง ขอพัก ๓ คืน...ลดให้หน่อยได้ไหม?  แม่บ้านยกหูโทรไปถามเจ้าของ ได้ยินเสียงบอกว่า "เป็นคนไทยค่ะ!!"  ปรากฏว่าเค้าลดให้ผมเหลือคืนละ ๑๘๙ บาท...


ตกลงครับ ผมจ่ายเงินค่าที่พัก ๓ คืน ๕๖๗ บาทและวางมัดจำค่า keycard อีก ๑๐๐ บาท ลงทะเบียนเข้าพักแล้ว แม่บ้านก็พาผมขึ้นไปยังห้องพักซึ่งอยู่บนชั้นสาม...


ความคิดเข้าท่าดีครับ เค้าใช้วงกลมสีเขียวบอกตำแหน่งชั้นสาม



กุญแจห้องใช้ระบบ keycard ทันสมัยเหมือน backpacker hostel ที่สิงคโปร์เลย!




วิธ๊เปิดก็ใช้คีย์การ์ดไปผ่านตรงเซนเซอร์ที่เห็นมี ๓ จุด พอมีเสียง "ปี๊ป" ไฟเหลืองออก ก็เปิดประตูเข้าไปได้ (คำเตือน - เวลาออกจากห้อง อย่าลืมนำคีย์การ์ดติดตัวออกไปด้วย ถ้าไม่มีคีย์การ์ดจะเปิดประตูเข้าห้องไม่ได้)

ในห้องมีเตียง ๒ ชั้นอยู่ด้วยกัน ๓ เตึยง แสดงว่าพักได้ ๖ คน เป็น mixed dorm ซึ่งพักร่วมกันได้ทั้งชายหญิง...

 
พักอยู่คนเดียว...ผมเลือกเตียงล่าง ใกล้ ๆ กับเครื่องปรับอากาศ!  แอร์เย็นฉ่ำเชียวล่ะ!
  

ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม สะอาดสะอ้านดีครับ ที่หัวเตียงมีที่สำหรับเสียบคีย์การ์ดเพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศและระบบไฟ หลอดไฟดวงกลม ๆ นั่นสำหรับอ่านและเขียนหน้งสือ


วันแรกผมนอนคนเดียว...เปิดแอร์ทั้งคืน คืนที่สองช่วงดึกมีเสียงดังปิ๊ป ผมสะดุ้งตื่น เห็นฝรั่งสาวเข้ามาพักอีกสองคน


ลงเครื่องมาตอนดึก...คงจะเหนื่อยกับการเดินทาง ตอนผมจะออกไปสถานทูตพม่า ก็เห็นเธอยังหลับเป็นตาย พอผมกลับเข้ามาอีกทีตอนใกล้ค่ำ เธอก็เช็คเอ้าท์ออกไปแล้ว คืนที่ ๓ ก็เหลือผมครองห้องอยู่คนเดียวอีกเหมือนเดิม!

เค้ามี free wifi ให้ใช้อย่างเต็มที่ เสียดายที่ผมไม่มีอุปกรณ์อะไรทั้งนั้น ไม่งั้นคงนอนเล่นเน็ตในห้องแอร์ได้อย่างสบาย ๆ

 






แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ...

No comments: