Thursday, July 26, 2012

๑ + ๑ = ๑

ก่อนเที่ยงวันนี้...ผมใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง ซ่อมเมโลเดียนให้กลับมาใช้การได้อีกตัวนึง เป็นเมโลเดียนยี่ห้อ Suzuki ครับ เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๕ ผมก็ซ่อมให้ใช้การได้มาแล้วหนึ่งตัว (อ่านย้อนหลังได้ที่ "ซ่อม soprano melodion" )


เมโลเดียนทั้งสองตัว...ผมใช้วิธีการ ๑ + ๑ = ๑ คือ นำอะไหล่ที่ยังใช้ได้จากเครื่องหนึ่งไปใส่ให้อีกเครื่อง ทำให้เมโลเดียนเสีย ๒ เครื่อง กลายเป็นเมโลเดียนดีได้ ๑ เครื่อง

แต่ทว่า...ตัวที่สองนี้ มันซ่อมยากกว่าตัวแรกครับ เรามาดูกันหน่อย


ที่เห็นคือเมโลเดียนยี่ห้อซูซูกิ โซปราโนขนาด ๒๗ คีย์ อาการเสียคือ ตัวบนเป่าโน้ต D (สุง) ไม่ดัง ตัวล่างเป่าโน้ต C (สูง) ไม่ดัง  เอ้า...แกะออกดูเลย ไม่ต้องกลัว ไหน ๆ ก็เป็นเครื่องที่ใช้งานไม่ได้มานานแล้ว! ซ่อมไม่ได้ก็ไม่เป็นไร! แต่ถ้าซ่อมได้...ก็ดี

ขันสกรูออก...แล้วนำตัวเครื่องออกมาตรวจหาสาเหตุว่าทำไมถึงเป่าไม่ดัง


 นั่นไง...ลิ้นโน้ตตัว D หักไปแล้ว


ส่วนอีกตัวหนึ่ง ลิ้นโน้ต C หักไป

ซ่อมครั้งที่แล้ว ลิ้น (reed) เสียคนละแผง ผมก็เลยยกแผงเปลี่ยนได้ แต่คราวนี้เมโลเดียนป่วยสองตัวมีอาการลิ้นเสียที่แผงเสียงสูงเหมือนกัน ช่างเหอะต้องหาวิธีซ่อมให้ได้...


พอดีเลยครับ ตรงแนวสกรูที่ผมตีเส้นให้ดู สามารถตัดออก...แล้วนำแผงลิ้นด้าน Ab - C ไปใช้ได้ ส่วนอีกตัวหนึ่งก็ตัดตรงจุดเดียวกัน แล้วนำแผงลิ้นด้าน C#- G ไปใช้ได้


วิธีตัดก็ไม่ยาก ไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก แค่ใช้ใบเลื่อยตัดเหล็กหัก ๆ ซึ่งยาวพอมือจับได้ ไม่ต้องใช้ปากกาจับตัวแผงลิ้นที่จะตัด เพราะจะทำให้ลิ้นที่ดีอยู่ชำรุดเพิ่ม ไม่ต้องขีดเส้นด้วย ใช้กะเอาด้วยสายตา(เอียง)


ผมใช้มือซ้ายจับแผงลิ้น ไม่กลัวเสียเพราะจะทิ้งอยู่แล้ว มือขวาจับใบเลื่อย ค่อย ๆ เลื่อยตัดผ่านรูสกรู (ถ้ากลัวเสียมือก็ใส่ถุงมือซะหน่อย) ใช้เวลาไม่นานหรอก ขนาดใบเลื่อยทื่อ ๆ ก็แค่ ๓-๔ นาทีเอง



ตอนใกล้ขาด...ต้องระวังแผงลิ้นทางด้านดี อย่าให้ตกลงพื้นหรือกระทบกระแทกกับอะไร!

 

ตัดแผงแรกเสร็จแล้วก็ตัดอีกแผงนึง ด้วยวิธีเดียวกัน อย่าลืมใช้มือซ้ายจับด้านลิ้นหัก ค่อย ๆ ใจเย็นเลื่อยไป...


จากนั้นก็นำแผงลิ้นเสียงสูงซึ่งแยกส่วนทั้งสองชิ้น ไปประกอบในเมโลเดียนตัวที่มีสภาพแผงลิ้นเสียงต่ำดีกว่าเพื่อน ไม่ต้องกังวลเกี่่ยวกับรอยห่างระหว่างแผงลิ้นที่นำมาใช้ด้วยกัน เพราะพอใส่สกรูตัวเล็ก ๆ ลงไป แผงลิ้นก็จะแนบสนิทกับตัวฐานเอง แต่เพื่อให้สมชื่อ "ช่างเหอะ" ผมแอบเอากาวร้อนค่อย ๆ แต้มลงไปในรอยห่างนิด ๆ (ระวังอย่าให้กาวเลอะไปโดนลิ้นเข้าล่ะ) ก่อนที่จะขันสกรูตัวสุดท้ายเข้าไป...

เรียบร้อยดีแล้ว ฉีดโซแนคทำความสะอาดลิ้น โดยปล่อยทิ้งไว้แป๊ปนึง ก่อนที่จะใช้กระดาษทิซซู่ค่อย ๆ ซับ เช็ดคราบสกปรกออก ขั้นตอนนี้มือต้องเบามาก ๆ

เสร็จแล้ว...ผมเลือกเคสตัวที่มีสภาพดีที่สุด คือพลาสติกไม่แตกร้าว และสายรัดมือไม่ขาด นำไปล้างทำความสะอาด แล้วปล่อยให้แห้ง...


จากนั้นก็นำตัวเครื่องประกอบลงในเคส ขันสกรูยึดให้แน่นทุกตัว...


ผมทดลองเป่าแล้ว...เสียงดีและดังมาก โน้ต C และ D ด้านเสียงสูงก็ใช้ได้ทั้งสองตัว!  แต่ดันมีปัญหาที่โน้ต G ตัวสุดท้าย มันไม่ดังอ่ะ ออกแรงเป่าแค่ไหน...มันก็ยังเงียบ!

ผมต้องรื้อเครื่องออกมาซ่อมอีกครั้ง โดยใช้ปลายคัตเตอร์ค่อย ๆ แคะลิ้นจอมดื้อด้วยความระมัดระวัง ซึ่งถ้าลิ้นหมดสภาพ...มันจะหักออกจากกันทันที แต่ตัวนี้โชคดีหน่อย...มันยังหนังเหนียว พอประกอบเครื่องกลับเข้าที่ ผมเป่าโน้ต G ซึ่งมีปัญหาเต็มที่ ทีแรกก็ยังเงียบ แต่พอเป่าต่ออีกหลาย ๆ ครั้ง...มันก็เริ่มมีเสียง และใช้งานได้เป็นปกติในที่สุด...

ผมซ่อมเครื่องให้ทางโรงเรียนได้อีกตัวนึงแล้ว จ้างผมเนี่ย...มันคุ้มยิ่งกว่าคุ้มเลยนะ จาบอกให้ อิอิ อิอิ...

No comments: