Saturday, July 21, 2012

ฝึกเล่นไวโอลินแบบง่าย ๆ สไตล์ลุงน้ำชา ๒


ไม่สบาย....เมื่อคืนนี้ผมกินยาหลายขนาน ตื่นขึ้นมาตอนเช้า โห! ลุกขึ้นยืนแล้วผมรู้สึกคล้ายตอนที่นั่งอยู่บนเรือ ในทะเลสาบอินเล(ประเทศพม่า) ไม่มีผิด มันโคลงเคลง ๆ เหมือนว่าจะล้มหงายหลังซะให้ได้!!  นั่นเป็นสัญญาณเตือนอีกครั้งหนึ่ง หลังจากครั้งที่ผมเกือบล้มทั้งยืน..ขณะลุกขึ้นสอนเชลโลน้องบาร์บี้  ตกลงวันนี้ผมไม่ได้ไปสอนเปียโนน้องปัน ๆ ตอนบ่ายก็ไม่ได้สอนไวโอลินและเชลโลเด็ก ๆ  พอดีบาร์บี้ลาหยุด  ผมโทรแจ้งให้คุณพ่อน้องเมเปิล แต่ไม่มีเบอร์โทรคุณแม่ของน้องอาย(นักเรียนตัวจิ๋วสุด)...ก็เลยไม่สามารถติดต่อได้

หลับเกือบทั้งวัน...ผมรู้สึกว่ายังโชคดีที่อาการคอเจ็บมิได้ลามไปถึงขั้นไม่มีเสียง มิฉะนั้นคงจะลำบาก เพราะวันพุธที่จะถึงนี้ ผมจะต้องไปพูดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏว่าด้วยเรื่อง "เส้นทางสู่นักดนตรีอาชีพ" ผมรับปากเค้าไว้แล้ว!

วันนี้ขอเขียนเรื่อง "ฝึกเล่นไวโอลินแบบง่าย ๆ สไตล์ลุงน้ำชา" ต่อนะครับ...

ก่อนอื่น...ผมต้องขอสนับสนุนความคิดของเพื่อน ๆ ผู้ประสงค์จะเล่นไวโอลิน แม้จะมีหลายคนบอกว่าไวโอลินเล่นยาก มันไม่เหมาะสำหรับคนที่ถูกจัดอยู่ในประเภท"ไม้แก่" ดัดยาก!  แต่ก่อนผมก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน  ผมถึงได้ขายเครื่องมือทิ้ง หลังจากใช้เรียนไปได้แค่ ๑๖ ครั้ง กล่าวคือ ผมได้ลงทะเบียนเรียนกับอาจารย์ฝรั่งที่ ม.พายัพ หลังจากจบคอร์ส...ผมจำเป็นต้องแสดง recital  เพลงที่ใช้บรรเลงในวันนั้นก็ไม่ยากสักเท่าไร รู้สึกว่าจะเป็น March Militaire ของ Schubert  


แต่ระหว่างการบรรเลง ผมไม่สามารถบังคับคันชักได้ เพราะความตื่นเต้น มือซ้ายของผมเล่นได้ตามโน้ตเพลงก็จริง แต่มือขวากลับสั่นเป็นเจ้าเข้า ผลก็คือความไม่ต่อเนื่องของเสียงเพลง!  แม้ว่าจะบรรเลงจนจบเพลง แต่มันก็ไม่ดี ผมเสียใจและผิดหวังในการแสดงของตัวเองยิ่งนัก ตัดสินใจวางมือ และขายไวโอลินให้กับนักศึกษารุ่นน้องไปในที่สุด!  จากเหตุการณ์วันนั้นผ่านมาได้กว่า ๒๐ ปี...ผมไม่สนใจไวโอลินอีกเลย ไม่เคยนึกรักมันอีกแม้แต่น้อย!

จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ผมช่วยสอนวิชาเปียโนให้กับโรงเรียนธีรดามิวสิคของครูแต้ม ก่อนหน้านั้นผมเห็นทางโรงเรียนมีไวโอลินขนาด 4/4 อยู่ ๒ คัน (ครูแต้มบอกว่าซื้อมาจาก Power Buy ใต้ห้างบิ๊กซีลำปาง ในราคาคันละพันกว่าบาท) ก็ยังไม่สนใจ...ได้แต่เดินผ่านไปผ่านมา วันนั้นเจ้าของโรงเรียนขอให้ผมช่วยรับสอนไวโอลินนักเรียนคนหนึ่งแทน "ครูไกร" ครูไวโอลินซึ่งจำเป็นต้องหยุดสอน เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับการเดินทาง ถ้าจำไม่ผิดนักเรียนคนนั้นมีชื่อว่า "น้องตุลย์"

น้องตุลย์ นักเรียนไวโอลินคนแรกของผม

ผมรับปากว่าจะช่วยสอนน้องตุลย์ จึงได้ขอยืมไวโอลินของทางโรงเรียนกลับบ้าน เพื่อทดสอบว่าตัวเองพอจะสอนได้หรือไม่ ขณะนั้นผมยังไม่เคยเห็นตำราไวโอลินของซูซูกิ รู้แต่เพียงว่านักเรียนใช้ตำราไวโอลินของ Alfred ผมคิดว่าคงจะสอนได้มั้ง!  และแล้วผมก็ไปสอนจริง ๆ จำได้ว่าวันแรกที่ผมสอนน้องตุลย์ ผมต้องนำไวโอลินเข้าไปในห้องครัวของโรงเรียนเพื่อฝึกซ้อมก่อนลงมือสอน!

ตั้งแต่นั้นมา...ผมก็มีนักเรียนเพิ่มขึ้น คือ น้องนินจา แล้วตามมาด้วยน้องดรีม อ้อ และเอิน

น้องนิน
น้องดรีม
น้องอ้อ

น้องเอิน
ผมเริ่มดาวน์โหลดตำราเครื่องสายมาเก็บสะสมไว้ จนถึงวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจสั่งซื้อวิโอล่าและเชลโลทางอินเทอร์เน็ตมาเป็นของตัวเอง
เชลโลที่สั่งซื้อมา
ครอบครัวเครื่องสายของผม

ผมตกหลุมรักกับเจ้าไวโอลินอีกครั้ง เริ่มพูดคุยเรื่องไวโอลินในเว็บ wichai.net มากขึ้น จนถึงขนาดทำให้เกิดความเข้าใจผิด บางคนคิดว่าผมเป็นครูสอนไวโอลินที่เก่งกาจ ทั้ง ๆ ที่ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้นเลย!



ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความคิดที่จะเปิดสอนให้เด็ก ๆ ได้เล่นเครื่องสายนั้นเกิดขึ้นตอนไหน?  ความเป็นมาเป็นเช่นไร...ผมก็จำไม่ได้แล้ว!  รู้แต่ว่าพอเริ่มสอน...ผมต้องศีกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับไวโอลินให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สอนเด็ก ๆ รุ่นแรก ผมต้องคิดแบบฝึกหัดขึ้นมาเองแบบสด ๆ เช่น การสีรถไฟ A D G E A, แบบฝึกหัด เร-โด, แบบฝึกหัด มี-เร-โด-โด-เร-มี และอื่่น ๆ เพื่อใช้สอนนักเรียน

ผ่านมาได้เกือบ ๒ ปี ทุกวันนี้ผมเริ่มเห็นว่าเด็ก ๆ ได้เรียนรู้การเล่นเครื่องสายร่วมกัน ต่างก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะเป็นการก้าวเดินที่เชื่องช้าแต่ก็มั่นคง ผมจึงอยากนำประสบการณ์ที่ได้จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาเพื่อแบ่งปันกับเพื่อน ๆ 

เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ผมต้องแสดง recital  ถ้าวันนั้นผมได้รับคำแนะนำที่ดี ทำให้ผมเข้าใจถึงสิ่งที่ผิดพลาด หรือถ้าหากผมไม่ได้ออกบรรเลงในวันนั้น ผมอาจจะยังคงเก็บไวโอลินตัวนั้นไว้ แล้วฝึกเล่นเรื่อยมาจนกระทั่งถึงวันนี้ก็เป็นได้ น่าเสียดายกับช่วงเวลา ๒ ทศวรรษที่ผ่านไป...ถ้ามีใครสักคนช่วยชี้แนะให้ ทุกวันนี้ผมคงสามารถยืนหยัดสอนไวโอลินอยู่ได้โดยไม่อายใคร

เล็งเห็นถึงข้อผิดพลาด ผมจึงอยากชี้แนะให้กับเพื่อน ๆ ผู้อาจจะยังสับสนและไม่แน่ใจในความสามารถของตนเองว่า "มาเถอะครับ...หันมาจับไวโอลินขึ้นเล่นด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ทุกคนทำได้ทั้งนั้น!"

ขอให้กำลังใจเพื่อน ๆ ก่อนครับ ต่อไปค่อยมาคุยกันด้วยเรื่องของการหาไวโอลินไว้ใช้ฝึก



สู้ ๆ ครับ...

3 comments:

มานะ said...

- เห็นด้วยกับ คุณลุงน้ำชา ที่ว่า ไม่ว่า เด็ก หรือ คนแก่ ก็สามารถเล่น ไวโอลิน ได้ ผมเองมาเริ่มจับ ไวโอลิน ครั้งแรกในชีวิต เมื่ออายุ ๕๔ เนื่องจาก มีภาระงานมาก ไม่มีเวลาว่างที่จะไปเรียนในโรงเรียนดนตรี ผมอาศัย หนังสือในห้องสมุดของคุณลุงน้ำชา กับการฝึกทุกวัน เวลาผ่านมา ๑ ปี ผมก็สามารถเล่น ไวโอลิน เป็นเพลงได้ แต่สำหรับ คนแก่ ที่หัดเล่น ไวโอลิน เป้าหมายคือการ เล่น ไวโอลิน เพื่อความบรรเทิง เป็นงานอดิเรก ดังนั้นหากสามารถเล่นเป็นเพลงได้ แม้จะไม่ถูกต้องตามหลักทฤษฎีดนตรี แต่หากการเล่นนั้นทำให้เรามีความสุขได้ ผมว่า เพียงพอแล้ว ความจริงแล้ว ไวโอลิน เล่นไม่ยากมาก หากเข้าใจหลักการ อดทนฝึกฝนทุกวัน ผมเองทุกวันนี้ เล่น แบบแกะเพลงเอง เคยไปเดินตามร้านหนังสือ หาซื้อหนังสือ โน๊ตเพลงไทย แต่หาไม่ได้ แต่เมื่อแกะเพลงเอง สนุกครับ เราร้องเพลงไหนได้ ก็สามารถแกะเพลงได้ แต่ต้องอาศัย ความรู้ เรื่อง key กับ scale มาช่วย กับตำแหน่งของ โน๊ต บนสะพานนิ้ว
- สำหรับท่านที่สนใจ หาซื้อ ไวโอลิน สักตัว แล้วฝึกฝนไปตามคำแนะนำของคุณลุงน้ำชา ท่านสามารถเล่น ไวโอลิน ได้แน่นอนครับ

มานะ said...

- หากท่านสนใจ ไวโอลิน ฝีมือ คนไทย ติดต่อได้ที่ คุณไพสิทธิ์ paiisitt@gmail.com

Wichai said...

ขอบคุณคุณหมอมานะมาก ๆ ครับ...