Thursday, January 13, 2011

วงคอมโบ

อาจารย์ประทีป นุตาคม เป็นมือแซกโซโฟน ในยุคที่วงดนตรีประเภทวงคอมโบกำลังเป็นที่นิยมกัน เครื่องดนตรีวงคอมโบก็จะประกอบด้วย กีต้าร์ เบส เปียโน กลอง เทเนอร์เเซกโซโฟน อัลโตแซกโซโฟน ทรัมเปท และทรอมโบน (บางครั้งไม่มี) วงดนตรีประเภทนี้ใช้บรรเลงในไนท์คลับ สวนอาหาร  ตลอดจนงานสังสรรค์ งานบอลรูม และงานแต่งงาน

อาจารย์ประทีปเป็นอาจารย์พิเศษซึ่งทางวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพจ้างให้ช่วยสอนดนตรีให้กับชุมนุมดนตรีสากล พอดีผมเป็นประธานชุมนุมดนตรีสากลในช่วงปี ๒๕๑๒-๑๓ จึงได้รู้จักอาจารย์ประทีปและเคยได้ไปออกงานกับท่านเป็นครั้งคราวในตำแหน่งนักเล่นกีต้าร์หรือเบส…

ช่วงนั้นเป็นยุคทองของนักดนตรีวงคอมโบจริง ๆ ครับ มีงานให้ทำอยู่เรื่อย ๆ  นักดนตรีมีชื่อเสียงในวงการบางคนก็ตั้งวงขึ้นมารับงาน อย่างเช่น พี่ป๊อกมือกลองวงสุนทราภรณ์ เมื่อรับงานก็โทรบอกนักดนตรีคนอื่น ๆ  อาจบอกว่า “โหล ๆ วันศุกร์นี้ งานแต่งงาน ที่สโมสรรถไฟ เจอกัน ๕ โมงเย็น อย่าลืมนะ…”

เย็นวันศุกร์อาจารย์ประทีป (ทำงานอยู่กองสลากกินเเบ่งฯ) ก็จะขับรถเต่าไปที่สโมสรรถไฟพร้อมกับกล่องเทเนอร์เเซกโฟนและฟลุท ไปเจอพี่ป๊อกและนักดนตรีคนอื่น ๆ ก่อนงานเริ่ม  ไม่ต้องซ้อมไม่ต้องเซิ้มหรอกครับ วางโน้ตก็เล่นกันเลย หัวหน้าวงก็เตรียมโน้ตเพลงบรรเลงไว้ ส่วนนักร้องต่างคนต่างก็มีโน้ตเพลงที่จะร้องไปแจกให้นักดนตรี เพลงไหนที่ไม่มีโน้ตก็เล่น by heart กันไป  นักดนตรีและนักร้องชายใส่สูท นักร้องหญิงลูกกรุงก็จะแต่งชุดยาว ส่วนลูกทุ่งก็สวมรองเท้าบูท เหมือนอย่างในภาพนี้


อาจารย์ประทีบไว้ใจผม เวลางานชนกัน หามือกีต้าร์หรือมือเบสไม่ได้ ผมก็จะถูกเรียกให้ไปเล่นด้วย ทำให้ผมได้สัมผัสชีวิตการเป็นนักดนตรีวงคอมโบ ผมไม่ต้องขนเครื่องดนตรีหรือเครื่องขยายเสียงไปด้วย หัวหน้าวงจะจัดเตรียมไว้ให้ พอไปถึงก็ตั้งสายแล้วเล่นเลย งานเลิกก็กลับหอพัก (จำนงค์) ค่าตัวที่ได้รับเพียง ๓๐-๔๐ บาทเอง สมัยนั้นค่ารถเมล์ ๕๐ สตางค์ ผักชีกำละ ๒๕ สตางค์เท่านั้น!!


มีอยู่ครั้งหนึ่งอาจารย์ประทีปบอกให้ผมไปแทนมือเบสที่ภัตตาคารบางโพ ผมนึกเห็นภาพแต่เพียงลาง ๆ รู้สึกว่าจะมีเปียโน เบส กลอง แต่ที่จำได้คือนักร้องที่ชื่อ ชวลี ช่วงวิทย์ และมาณี มณีวรรณซึ่งร้องเพลงที่ว่า “จุดเทียนเวียนวน…เรามาสองคน วนเอ๋ยวนเวียน…”  คืนนั้นผมได้ค่าตัว ๓๐ บาทครับ!!


นักร้องที่ผมได้กล่าวถึง ทุกคนได้จากโลกนี้ไปแล้ว ครูเอื้อ สุนทรสนาน (๑ เมษายน ๒๕๒๔) – ชวลี ช่วงวิทย์ (๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๔) – มาณี มณีวรรณ (๓ กรกฎาคม ๒๕๕๒) – บุษยา รังษี (๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓) เหลือไว้แต่ผลงาน เสียงเพลง และคุณงามความดีที่ประดับไว้ในโลกา ผมขอกราบคารวะครับ…

ชีวิตไม่จีรังยั่งยืน.... สำหรับผมเองก็คงไม่มีอะไรอีกแล้ว จะขออยู่โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร จนกว่าจะถึงวันที่ผมจากโลกนี้ไป

No comments: