Sunday, January 30, 2011

รายงานความคืบหน้า

๓ ทุ่มแล้ว….ผมเพิ่งจะนำแม่เรไรกลับเข้าที่นอน(กล่อง) หลังจากนำออกมาฝึกซ้อมได้ประมาณชั่วโมงครึ่ง ก็อย่างที่เคยบอกเพื่อน ๆ ก่อนหน้านั้นแล้วว่าผมคงต้องกลับมาซ้อมเชลโล เพื่อทำให้โครงการวง string ensemble ฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่ง  จริง ๆ แล้วผมก็คงจะไม่เล่นเอง ถ้ามีเด็กนักเรียนซักคนหนึ่งเลือกเล่นเชลโล เหมือนอย่างในภาพซึ่งอาจารย์ธนดลเมล์ส่งมาให้ดูจากจังหวัดแพร่...





ผมเคยฝันว่าลำปางเราจะมีผู้ปกครองสักคนหนึ่งที่กล้าควักกระเป๋าซื้อเชลโลขนาด 1/2 ให้ลูกใช้เรียน  ทุกวันนี้ยังไม่มีครับ จะมีก็แต่ไวโอลิน แต่ผมก็เข้าใจดีว่าการลงทุนซื้อเชลโลในราคา ๘,๐๐๐ บาท โดยที่ไม่รู้ว่าลูกจะเรียนไปได้แค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย  อืมม์…ถ้าผมเป็นคนรวย ผมจะซื้อเชลโลขนาด 1/8 หรือ 1/4 ไว้ที่บ้านให้เด็กใช้เรียนสักคันนึง  อยากเห็นภาพเด็กเล่นเชลโลน่ารัก ๆ เหมือนกับเด็กที่เห็นในวิดีทัศน์ครับ…



มันคงเป็นได้แค่ความฝันเท่านั้นแหละ ผมปลอบใจตัวเอง มาคุยถึงเรื่องความตืบหน้าในโครงการต่าง ๆ ของผมดีกว่าครับ เรื่องนักเรียนไวโอลินรุ่นจิ๋ว วันนี้ก็มาเรียนกันตามปกติ ขาดแต่น้องเจ้าขา  บ้านลุงน้ำชาค่อนข้างจะคึกคัก เพราะมีนักเรียนมาเพิ่มอีก ๒ คน คือ น้องเบลล์ และ น้องแบ๊งค์  และคุณอารีย์ยังพาน้องภาแวะมาคุยเรื่องไวโอลินและบรรเลงเพลงสอบเกรดเปียโนให้น้อง ๆ ได้ฟังกัน


ดูคล้ายกับว่าบ้านลุงน้ำชากลายเป็น conservatory เล็ก ๆ ไปซะแล้ว เด็ก ๆ อนุบาล ๒-๓ ได้เรียนรู้ ได้ฟังเพลงคลาสสิก และได้เห็นการเล่นเปียโนที่สมบูรณ์และไพเราะจากพี่คนหนึ่ง…


กำลังจะเริ่มเป็น “บ้านแห่งการเรียนรู้” ที่มีสีสันอย่างที่คุณเมธีบอกแล้วล่ะ…


เด็ก ๆ กำลังดูการทำงานของเปียโน ได้เห็นค้อนที่เคาะไปบนสาย และ damper ที่ขึ้น ๆ ลง ๆ  ส่วนเด็ก ๒ คนที่ยืนดูอยู่ห่าง ๆ ออกไปนั่นคือนักเรียนสองพี่น้องที่มาใหม่ (ชื่อ เบลล์ และแบ๊งค์)  ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เมื่อทราบว่าน้องแบ๊งค์ถึงกับร้องไห้เมื่อเล่นไม่ทันน้อง ๆ ซึ่งตัวเล็กกว่า ยิ่งตอนจะกลับบ้าน ครูหน่อยบอกให้สู้ น้องแบ๊งค์ส่ายหน้า ผมเห็นแล้วพูดไม่ออก ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน นอกจากเปียโนแล้ว น้องภายังเล่นไวโอลินอีกด้วย ผมมีโอกาสได้แนะนำน้องภาบ้างนิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องการดูแลรักษาไวโอลิน การถูยางสนสไตล์ลุงน้ำชา รวมทั้งเรื่องท่าทางการเล่นไวโอลิน


น้องภาสีไวโอลินให้ผมฟัง พอได้ยิน หูผมก็บอกว่ามันไม่ใช่เสกลสากล ผมสอบถามว่าเล่นดนตรีไทยด้วยหรือเปล่า จริง ๆ ด้วย…น้องภาเล่นซอในวงดนตรีไทยที่โรงเรียน  มิน่า..ผมจึงได้ยินเหมือนกับซอ ไม่ใช่ไวโอลิน!!   มันลำบากไม่น้อยเลยครับ  หากว่าคน ๆ หนึ่งจะต้องใช้นิ้วบรรเลงเพลงด้วยเสกล ๒ แบบ  ในวงดนตรีไทย ๑ คู่แปด (octave) เปรียบเหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นหนึ่งถูกตัดแบ่งออกเป็น ๗ ชิ้น แต่พอไปอยู่วง string ensemble เจ้าก๋วยเตี๋ยวเส้นเท่ากันกลับถูกซอยออกเป็น ๑๒ ชิ้นเท่า ๆ กัน ทำให้เสกลไทยกับสากลไม่เท่ากัน ผมแนะนำให้น้องภาเลิกสีซอ หันไปเล่นเครื่องอื่นแทน เช่นระนาดหรือขิม… ลืมบอกไปว่าไวโอลินของน้องภาเป็นไวโอลินเก่า คุณภาพดี ที่ซื้อมาในราคา ๑๕,๐๐๐ บาท


ถ่ายใกล้ ๆ ให้ดู…


การเรียนของนักไวโอลินรุ่นจิ๋วในวันนี้ก็ก้าวหน้าเป็นที่น่าพอใจ นักเรียนได้ทบทวนแบบฝึกหัดเก่า ได้ฝึกเล่นเสกล A D  และ G ก่อนพักกินขนมก็ต้องสีเพลง Twinkle Twinkle Little Star หลาย ๆ รอบ ในช่วงที่ ๒ ผมให้นักเรียนสีเพลง หนูมาลี,  Jingle Bells และ Are You Sleeping ตามเสียงร้องของผม (ยังไม่ใช้โน้ต) ปรากฏว่าทุกคนทำได้ดีครับ… ผมได้คิดกับครูหน่อยไว้ว่า บางทีอาจตัองจัดชั้นเรียนสัญจร ยกขบวนไปเรียนกันที่ศูนย์ฝึกลูกช้างหรือสวนสาธารณะ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ… ช่วงเย็นผมลุยงานกั้นห้องต่อ ตีไม้อัดเรียบร้อยแล้วครับ มีภาพให้ดูด้วย


ด้านในก็เรียบร้อยแล้วเช่นกัน ติดพัดลมดูดอากาศไว้ตรงมุมด้านบน


เตียงที่เห็นก็เป็นแบบใช้ในหอพัก  โป้ว ใส่กันเปื้อน ทาสี ทำความสะอาดพื้น ใส่บานประตู ยกเตียงมาเพิ่มอีก ๒ เตียง อีกไม่นานส่วนที่เป็น accommodation  ก็เรียบร้อยแล้ว..


วันนี้ขอรายงานเพียงแค่นี้ครับ…

No comments: