ในชั่วโมงแรกนั้น ผมสอนน้องบุ๊คเกี่ยวกับทุกสิ่งที่นักเรียนจำเป็นต้องรู้ อาทิ การดูแลรักษาเครื่องดนตรีนับตั้งแต่เริ่มนำไวโอลินออกจากกล่องไปจนถึงตอนเก็บเข้ากล่อง การจับเครื่องดนตรีในท่าพัก ท่าเล่น ท่ายืน การจับโบว์ การตั้งสาย ตลอดจนชื่อโน้ตในแต่ละสาย การบ้านในชั่วโมงแรกก็คือ การสีแบบรถไฟ AADDGGEEAA น้องบุ๊คหัวไวมากครับ ยิ่งเรียนรู้ได้เร็ว ผมก็ยิ่งสอนเร็ว!
ผมทุ่มเทให้อย่างเต็มที่ พูดได้ว่าตั้งแต่สอนมา ก็ยังไม่เคยให้นักเรียนคนใดได้เริ่มเล่นนิ้ว ๑ (อย่างที่เห็นในภาพ) หลังจากฝึกซ้อมมาได้แค่เพียงสัปดาห์เดียว ก็มีน้องบุ๊คนี่แหละ!
ชั่วโมงที่ ๒ การบ้านของน้องบุ๊คก็คือ แบบฝึกหัด เรโด (สาย A D G E A) ของลุงน้ำชา…
สอนเสร็จ…ผมไปซื้อเสบียงและยาให้พี่ชาย จากนั้นก็ไปซื้อน้ำไร้ความรู้สึกที่ตลาดนาก่วม พอกลับถึงบ้าน ผมจับค้อนตีตะปูต่อ จนได้ผลงานอย่างที่เห็นในภาพข้างล่างนี้…
ก่อนค่ำมีผู้มาเยือนลุงน้ำชา คือ น้องนัท น้องน่าน และคุณแม่ เมื่อตอนปลายปีคุณพ่อเคยพามาแล้วครั้งนึง จากนั้นก็หายเงียบไป วันนี้คุณแม่เป็นผู้พามาคุยเรื่องเรียนไวโอลิน
เห็นเป็นเด็กอนุบาล ๒ และ ๓ ผมบอกว่าคุณแม่พามาเรียนได้ฟรี เพียงแค่ลงทุนซื้อไวโอลินให้คนละตัว คือ ขนาด 1/4 และ 1/2 ซึ่งถ้าจะเรียนจริง ๆ ก็ต้องรอให้ผมหานักเรียนให้ได้อีก ๒ คน เพื่อจะได้จัดเป็นกลุ่มที่ ๒ แล้วให้มาเรียนในวันอาทิตย์เวลา ๑๕.๐๐ น. – ๑๗.๐๐ น. คุณแม่ก็อยากให้ลูกได้เรียนครับ แต่มีปัญหาตรงที่ไม่สามารถหาเวลามาส่งลูกได้ เพราะท่านเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลค่าย ฯ ส่วนคุณพ่อก็ทำงานอยู่ต่างแดน…
คุณแม่น้องแนนและนัทถามผมว่าขอเป็นตอนค่ำได้ไหม ผมบอกว่าถ้าเรียนช่วงนั้นคงต้องโดนยุงหามแน่ ๆ พูดไปผมก็ต้องขยับแข้งขยับขาไม่ให้โดนยุงกัด ขณะที่ยุงฝูงใหญ่บินว่อนอยู่เหนือศีรษะผู้มาเยือน!!!
ได้เวลาออกหากินของ blood suckers แล้วจ้า…
No comments:
Post a Comment